2557/12/25

ศัตรูสตรอเบอรี่ที่สำคัญ

ศัตรูสตรอเบอรี่ที่สำคัญ






1. ไรสองจุด เป็นศัตรูที่สำคัญของการผลิตผลสตรอเบอรี่ ไรจะดูดน้ำเลี้ยงจากใบสตรอเบอรี่โดยเฉพาะบริเวณใต้ใบ
ทำให้ผิวใบบริเวณที่ไรดูดทำลายมีลักษณะกร้าน ใต้ใบเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง ผิวใบด้านบนจะเห็นเป็นจุดด่างขาวเล็กๆ
กระจายอยู่ทั่วไป เมื่อการทำลายรุนแรงขึ้น จุดด่างขาวเล็กๆเหล่านี้จะค่อยๆแผ่ขยายติดต่อกันไปเป็นบริเวณกว้าง
จนทำให้ทั่วทั้งใบมีลักษณะเหลืองซีด ใบร่วง เป็นผลทำให้สตรอเบอรี่ชงักการเจริญเติบโต ต้นแคระแกรน
ให้ผลผลิตน้อยลง พบระบาดมากในสภาพอากาศแห้งความชื้นต่ำ

ไรสองจุด

ความสูญเสียระดับเเศรษฐกิจเนื่องจากการทำลายของไรสองจุดบนใบสตรอเบอรี่ในหน้าหนาว คือ 20 -25 ตัว/ใบ
แต่ในหน้าร้อนจะอยู่ที่ 50 ตัว/ใบ การป้องกันให้ใช้สารฆ่า"รโปรปาไจท์ ฉีดพ่นในช่วงที่ไม่มีแสงแดดจัด
และควรสลับชนิดของสารฆ่าไรเพื่อป้องกันการดื้อยา ไม่ควรใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชแบบครอบจักรวาล
ให้เลือกใช้สารที่จำเพาะเจาะจงและเป็นสารที่มีพิษย้อยต่อตัวห้ำตัวเบียน ศัตรูธรรมชาติที่สำคัญของไรสองจุด
ที่พบในแปลงสตรอเบอรี่ ได้แก่ ไรตัวห้ำ ซึ่งมีรายงานค้นพบว่ามีประสิทธิภาพสามารถควบคุมไรสองจุดได้ดี
นอกจากนั้น การให้น้ำแบบใช้สปริงเกอร์จะช่วยลดประชากรไรได้ เพราะจะเป็นการชะล้างไรให้หลุดจากใบพืช ชะล้าง
ฝุ่นละอองที่ไรชอบหลบอาศัยอยู่ และเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมให้ชุ่มชื้น เหมาะกับการอยู่อาศัยของศัตรูธรรมชาติ
ของไร หมั่นทำความสะอาดแปลง ไม่ให้มีวัชพืชขึ้นในแปลงปลูก และไม่ควรปลูกพืชผักโดยเฉพาะ เช่น กระเทียม
ขึ้นฉ่าย แซมในแถวปลูกสตรอเบอรี่ เพราะเป็นการเพิ่มพืชอาศัยให้ไรสองจุด

2. หนอนด้วงขาว เป็นหนอนของด้วงปีกแข็ง ตัวสีขาว ปากมีลักษณะปากกัด สีน้ำตาลอ่อน เจริญเติบโตจากไข่ที่อยู่
ใต้ดิน จะเริ่มกัดกินรากสตรอเบอรี่ในช่วงปลายฤดูฝน ทำให้รากไม่สามารถดูดน้ำได้ เมื่อใบคายน้ำจึงทำให้ใบเหี่ยว
รูใบปิด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่สามารถฟุ้งกระจายเข้าสู่ใบ การสังเคราะห์แสงจะลดลง ทำให้ต้นสตรอเบอรี่อ่อนแอ
ชงักการเจริญเติบโต เมื่อพบอาการดังกล่าวให้ขุดหาหนอนแล้วทำลาย ในการเตรียมแปลงให้ย่อยดินให้ละเอียด
โดยเฉพาะพื้นที่เปิดใหม่ใกล้ป่าหรือใกล้กองปุ๋ยหมัก ใช้สารเคมีประเภทคลอร์ไพริฟอสราดบริเวณที่พบ
สารเคมีดังกล่าวเป็นสารเคมีกำจัดแมลงประเภทสัมผัสและกินตาย มีพิษตกค้าง 20 - 25 วันในดิน

หนอนด้วงขาว

3. เพลี้ยอ่อน เป็นแมลงปากดูด จะดูดน้ำเลี้ยงของใบ ก้านใบ ด้านท้ายลำตัวเพลี้ยอ่อนมีท่อยื่นออกมา 2 ท่อ
ใช้ปล่อยสารน้ำหวานเป็นอาหารของเชื้อรา ทำให้พืชสกปรกเกิดราดำ พืชสังเคราะแสงได้ลดลง
ทำให้ชงักการเจริญเติบโต ใบหงิกย่น เพลี้ยอ่อนจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มตามส่วนยอดช่อดอกและขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว

นอกจากศัตรูดังกล่าวแล้ว บางพื้นที่ยังพบว่าทากและหนูเป็นศัตรูสำคัญที่เข้าทำลายผลสตรอเบอรี่ได้

การติดดอกออกผล และ การเก็บเกี่ยว

ต้นสตรอเบอรี่จะเริ่มแทงช่อดอกประมาณเดือนพฤศจิกายน เมื่ออุณหภูมิลดต่ำลงและช่วงแสงของวันสั้นเข้า คือ
ประมาณหนึ่งเดือนหลังจากปลูก เมื่อดอกบานมีการผสมเกสรแล้วประมาณหนึ่งเดือน ผลจะเริ่มทยอยแก่พร้อมที่จะเก็บ
เกี่ยวได้ โดยผลสุกมากที่สุดในช่วงเดือนมีนาคมและจะวายประมาณปลายเดือนเมษายน

สตรอเบอรี่นอกจากเป็นอาหารแล้วยังใช้เป็นสมุนไพรได้ เนื่องจากผลสตรอเบอรี่อุดมด้วยวิตามินซีและธาตุเหล็ก
มีคุณประโยชน์ต่อระบบเลือดและหัวใจ ลูกสีแดงสดอุดมด้วยซูเปอร์ไฟเบอร์เพคติน ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณ
โคเลสเตอรอลได้ระดับหนึ่ง นอกจากนั้นยังช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้สะดวก มีสรรพคุณเป็นยาระบายอย่าง
อ่อน ยาขับปัสสาวะและสามารถยับยั้งสารก่อมะเร็งกลุ่มไนโตรซามึนได้ (สารกลุ่มนี้กระตุ้นการเกิดมะเร็งในลำไส้)
เนื่องจากมีโพลีฟินอลปริมาณสูง

Mekong River

      




 
          หนองคาย or Nong Khai is a city in North-East Thailand. It is also the capital of Nong Khai Province. Situated on the Mekong River, near the site of the first Thai-Lao Friendship Bridge, spanning the river to Laos.

Tha Sadet Market

         




           
    The main shopping area in Nong Khai is Tha Sadet market or also known as Indochina Market. Most of the products here are from China, Laos & Vietnam as well as Thailand. You can find Thai silk, clothing, electrical goods, local handicraft, basketry, jewellery & so many other things including food.
     Most of the shop here open after 9.00am & close around 6.00pm.       
 


                                             

ต้นคริสต์มาส



ต้นคริสต์มาส

             ในสมัยโบราณ “ต้นคริสต์มาส” หมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบ ผลไม้มากิน และทำบาป ไม่เชื่อฟังพระเจ้า (ปฐก.3:1-6) ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์แสดงละครที่ หน้าวัด ถึงความหมายของคริสต์มาส และเอาต้นไม้ต้นหนึ่งไว้ตรงกลาง เพื่อประดับฉาก แสดงถึงบาปกำเนิดของอาดัมและเอวา ต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ ที่หาง่ายที่สุด ในประเทศ เหล่านั้น การแสดงละครคริสต์มาสแบบนี้ มีมาเป็นเวลาช้านานหลายร้อยปี จนถึงศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชหลายแห่งได้ห้ามแสดง เนื่องจากการแสดงนั้น กลายเป็นการเล่นเหมือนลิเก ล้อชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมือง และศาสนา ซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการฉลอง ชาวบ้านรู้สึกเสียดาย ที่ไม่มีโอกาส ดูละครสนุกๆ แบบนั้นอีก จึงไปสนุกกันที่บ้านของตน โดยเอาต้นไม้มาไว้ที่บ้าน หลังจากนั้น ก็เริ่มมีการแขวนลูกแอปเปิ้ล ขนมและของขวัญอย่างที่เห็นอยู่ ทุกวันนี้ …..นอกจากนั้น ชาวเยอรมันยังมีประเพณีอีกอย่างหนึ่งคือ มีการจุดเทียนหลายเล่มเป็นรูปปิรามิด ไว้ตลอดคืนคริสต์มาส โดยมีดาวของดาวิดที่ยอดปิรามิด ซึ่งประเพณีที่จะแขวนของขวัญและขนม ก็ได้รวมกับประเพณีของชาวเยอรมันนี้ มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยเอาเทียนมาไว้ที่ต้นไม้ เป็นรูปทรงปิรามิด นี่เป็นที่มาของประเพณีปัจจุบัน ที่มีการแขวนของขวัญ และไฟกระพริบไว้ที่ต้นคริสต์มาส และมีดาวของดาวิดไว้ที่สุดยอด ประเพณีนี้ เป็นที่นิยมชมชอบของชาวตะวันตกอยู่มาก แม้ว่าประเพณีการตั้งต้นคริสต์มาส มีความเป็นมาดังกล่าว ชาวคริสต์ในสมัยนี้ ก็ยังนิยมทำกันอยู่ เพราะเห็นว่า มีความหมายถึงพระเยซูเจ้า ผู้เปรียบเสมือนต้นไม้แห่งชีวิต? ที่เขียวสดเสมอในทุกฤดูกาล ซึ่งหมายถึง นิรันดรภาพของพระเยซูเจ้า และนอกจากนั้นยังหมายถึง ความสว่างของพระองค์ เสมือนแสงเทียนที่ส่องในความมืด ทั้งยังหมายถึง ความชื่นชมยินดี และความสามัคคี ที่พระเยซูเจ้าประทานให้ เพราะต้นไม้นั้น เป็นจุดรวมของครอบครัวในเทศกาลนั้น
 


 

วันคริสต์มาส (Merry Christmas)



 
 
Jingle Bell

 Dashing through the snow
On a one-horse open sleigh,
Over the fields we go,
Laughing all the way;
Bells on bob-tail ring,
making spirits bright,
What fun it is to ride and sing
A sleighing song tonight
Jingle bells, jingle bells,
jingle all the way!
O what fun it is to ride
In a one-horse open sleigh
A day or two ago,
I thought I’d take a ride,
And soon Miss Fanny Bright
Was seated by my side;
The horse was lean and lank;
Misfortune seemed his lot;
He got into a drifted bank,
And we, we got upsot.
Jingle Bells, Jingle Bells,
Jingle all the way!
What fun it is to ride
In a one-horse open sleigh.
A day or two ago,
the story I must tell
I went out on the snow
And on my back I fell;
A gent was riding by
In a one-horse open sleigh,
He laughed as there
I sprawling lie,
But quickly drove away.
Jingle Bells, Jingle Bells,
Jingle all the way!
What fun it is to ride
In a one-horse open sleigh.
Now the ground is white
Go it while you’re young,
Take the girls tonight
And sing this sleighing song;
Just get a bob-tailed bay
two-forty as his speed
Hitch him to an open sleigh
And crack! you’ll take the lead.
Jingle Bells, Jingle Bells,
Jingle all the way!
What fun it is to ride
In a one-horse open sleigh.
 
 




 


 

2557/12/24

ประโยชน์ของสตรอเบอร์รี่

ประโยชน์ของสตรอเบอร์รี่

 
 

 

 
  1. สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วย สารต่อต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการชะลอวัย
  2. ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
  3. เป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ต้องการจะลดน้ำหนักและความอ้วน เพราะมีพลังงานต่ำ
  4. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกาย
  5. ช่วยในการดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกาย ช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพดี
  6. มีส่วนช่วยบำรุงประสาทและสมอง
  7. ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
  8. ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง
  9. ช่วยเพิ่มปริมาณ ไขมันชนิดดี (HDL) ซึ่งช่วยทำให้หลอดเลือดสะอาดปราศจากคราบไขมัน
  10. ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งอย่าง ไนโตรซามีน (Nitrosamines) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดโรคมะเร็งละไส้
  11. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
  12. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้
  13. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน
  14. ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรง และป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
  15. สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วย ซุปเปอร์ไฟเบอร์เพคติน ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลได้
  16. มีส่วนช่วยบำรุงโลหิต
  17. ช่วยลดความดันโลหิต
  18. มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
  19. ช่วยป้องกันไม่ให้ทารกในครรภ์สมองพิการได้ (กรดโฟลิก)
  20. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ช่วยปรับสมดุลของนัยน์ตาให้เป็นปกติ และป้องกันโรคต้อกระจก โรคตาบอดตอนกลางคืน การรับประทานสตรอเบอร์รี่เป็นประจำจึงช่วยลดความเสื่อมของจอประสาทตาได้ถึง 50%
  21. การดื่มน้ำสตรอเบอร์รี่จะช่วยบำรุงร่างกายหลังฟื้นไข้
  22. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหวัดและภูมิแพ้
  23. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟันได้เป็นอย่างดี
  24. ช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ
  25. มีสรรพคุณทางยาเป็นยาระบายอ่อนๆ
  26. ช่วยแก้อาการท้องร่วง (ด้วยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ)
  27. ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ด้วยการรับประทานผลสดครั้งละ 5 ผล
  28. มีส่วนช่วยรักษาโรคนิ่วในไต
  29. ช่วยรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ (ด้วยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ)
  30. ช่วยแก้ปัญหาประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ (ด้วยการใช้ใบและราก(ด้วยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ)ตากแห้ง นำมาชงกับน้ำเดือด แล้วดื่มแทนชา และใช้รากสตรอเบอร์รี่ 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำเดือด 1 กาขนาดกลาง)
  31. ช่วยบรรเทาอาการของโรคตับอักเสบ
  32. ช่วยป้องกันการเกิดโรคข้ออักเสบ
  33. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา
  34. ช่วยป้องกันโรคเกาต์
  35. ช่วยระงับกลิ่นปากได้ดี ทำให้ลมหายใจสดชื่น (ใช้ใบสดนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำมาอมบ้วนปาก)
  36. ช่วยแก้อาการเจ็บคอ รักษาแผลในช่องปาก (ด้วยการใช้ใบสดสตรอเบอร์รี่นำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำน้ำมาใช้กลั้วคอ)
  37. ช่วยรักษาสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง (ด้วยการใช้ใบสดสตรอเบอร์รี่นำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำน้ำมาใช้กลั้วคอ)
  38. ใบสดนำมาโขลกแล้วนำไปประคบตามร่างกายช่วยลดอาการอักเสบบวมช้ำได้เป็นอย่างดี
  39. ใบสตรอเบอร์รี่นำมาซ้อนกันหลายๆใบ ใช้ประคบแก้รอยช้ำบวมตามร่างกาย
  40. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ด้วยการนำผลสตรอเบอร์รี่สดมาฝานบางๆ วางให้ทั่วบริเวณใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  41. ใช้ทำความสะอาดผิวหน้า ด้วยการใช้สตรอเบอร์รี่ประมาณ 3 ผลผสมกับน้ำมะนาวแล้วนำมานวดทาบริเวณใบหน้าแล้วล้างออก ซึ่งจะช่วยทำความสะอาดและปรับสภาพผิวและลดการอุดตันของรูขุมขนได้เป็นอย่างดี
  42. ช่วยทำให้ฟันขาวสะอาดเงางาม ด้วยการใช้ใบสตรอเบอร์รี่และรากที่ตากแห้วมาใส่โถปั่นจนเป็นผง แล้วนำมาใช้แทนยาสีฟัน
  43. มีการนำไปแปรรูปอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอร์รี่เชื่อม น้ำสตรอเบอร์รี่ แยมสตรอเบอร์รี่ ไวน์สตรอเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่อบแห้ง เค้กสตรอเบอร์รี่ โยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่ เป็นต้น

2557/11/18

ขนมปังกระเทียม



สิ่งที่ต้องเตรียม

          เนยสดชนิดจืด 230 กรัม

          กระเทียม สับละเอียด 20 กรัม

          เกลือป่น ¼ ช้อนชา

          พาสเลย์สับ

          ขนมปังฝรั่งเศสสไลซ์เป็นชิ้นบาง 1 แถว

วิธีทำ

           1. วางเนยสดให้อ่อนตัวลง เตรียมไว้

           2. ผสมเนยสด กระเทียมสับ เกลือป่น และพาสเลย์สับให้เข้ากัน ทาส่วนผสมเนยกระเทียมบนขนมปัง นำเข้าตู้อบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส นานประมาณ 5 นาที หรือจนสุกกรอบ จัดใส่จาน พร้อมรับประทาน

ของชอบ จึงแอบเอาวิธีทำมาเพื่อจะได้ทำทานกันคร้า

 

บรูสเกต้า (Bruschetta)

 บรูสเกต้า (Bruschetta) เป็นอาหารว่างสไตล์อิตาเลียนที่สามารถทำรับประทานได้ง่าย ๆ ซึ่งเรามักจะคุ้นหน้าค่าตาเวลารับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ที่มักจะมีอาหารว่างประเภทนี้พร้อมเสิร์ฟอยู่เสมอ มีหลากหลายหน้าให้เลือกรับประทาน และในวันนี้เราจึงขอหยิบยกสูตรบรูสเกต้ามะเขือเทศ จากคุณครูกุ๊ก เฟซบุ๊ก ICook by KuCook มาฝากให้ทำรับประทานเล่น ๆ กันนะคะ


สิ่งที่ต้องเตรียม

         มะเขือเทศหั่นเต๋าเล็ก ๆ 2 ลูก

         ใบโหระพาซอย 10 ใบ

         กระเทียม ปอกเปลือก 1 กลีบ

         เกลือป่น

         น้ำมันมะกอก

         น้ำส้มสายชู

         ขนมปังฝรั่งเศส

         พริกไทยป่นสำหรับโรยหน้า


วิธีทำ

          1. ผสมมะเขือเทศกับใบโหระพาเข้าด้วยกัน โรยเกลือป่นเล็กน้อย ใส่น้ำมันมะกอก และน้ำส้มสายชู คลุกผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้

          2. หั่นขนมปังเป็นชิ้นหนาประมาณ 1-2 เซนติเมตร นำไปปิ้งบนกระทะจนกรอบ และเกรียมเล็กน้อย

          3. นำกระเทียมมาถูเบา ๆ บนขนมปังจนมีกลิ่นเล็กน้อย

          4. ตักส่วนผสมมะเขือเทศวางบนขนมปัง โรยหน้าด้วยพริกไทยป่น เสิร์ฟร้อน ๆ

 ของโปรดปราย Phakapan เลยค่ะ จึงแอบเก็บไว้ทำและบอกเพื่อนๆต่อ