2557/05/29

บทเรียนของชีวิตคู่


 Life not easy

Story "Phakapan YingMee"



The  happy  time  in  my  life  is  doing  everything  for  you.
ช่วงเวลาที่มีความสุขของฉัน  คือการได้กระทำทุกสิ่งเพื่อเธอ

 

วันนี้เป็นวันที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตอีกวัน จากคนที่เรารักที่สุดในชีวิต
บางครั้งการที่เราเงียบไว้เป็นทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีในเวลาเดียวกัน

และเป็นวันสุดท้ายของการที่เรียนรู้การเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่
เป็นวันที่ไม่ทันได้คิดว่าจะมาถึงเร็วขนาดนี้

ถึงจะอยู่ไกลสุดขอบฟ้า
ก็ไม่มีอะไรทำร้ายความรักที่มีต่อกันได้
หากเชื่อมั่นและเชื่อใจกันและกัน

ขอสัญญาว่าจะดูแลชีวิตคู่ให้ดีกว่านี้
จะเอาบทเรียนและข้อผิดพลาดมาใช้
จะเปิดใจให้กว้างจะดูแลรักให้ดี
จะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปเพราะอารมณ์
....อีกแล้ว...
 

บทเรียนอันล้ำค่า

1.พบกันคนละครึ่งทาง ถ้าหากแฟนหนุ่มของเรากล้าที่จะโยนเสื้อตัวโปรด ขาดๆ เก่าๆทิ้ง เพราะเราไม่ชอบของเขา เราก็ไม่ควรจะโกรธ ถ้าเขาขอร้องให้เราเก็บกวาดห้องให้เรียบร้อย ความสัมพันธ์ที่สมดุลและแนบแน่น ต้องประกอบไปด้วยการให้และการรับ เพราะฉะนั้นจงเรียนรู้ที่จะพบกันคนละครึ่งทาง

2. ให้เกียรติซึ่งกันและกัน หยุดล้อเล่นและหัวเราะเยาะปมด้อย หรือข้อบกพร่องในตัวเขา หากเป็นเป็นสิ่งที่เราเคยชินที่จะทำ ลองไตร่ตรองดูว่า เขาหรือเราอาจไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกด้วยก็ได้ ถ้าหากว่าเขามีปมด้อย เป็นการทำลายความมั่นใจและความรู้สึกของเขาโดยตรง ความรักเป็นเรื่องของการให้เกียรติซึ่งกันและกัน และแคร์ความรู้สึกของกันและกันตลอดเวลา

3.ลืมความหลังครั้งเก่าเสีย หยุดพูดถึงเรื่องเก่าๆ ไม่มีใครหรอกที่อยากจะพูดถึงและนึกถึงเรื่องที่เศร้าหรือเรื่องผิดพลาดในอดีตของตัวเอง รู้จักให้อภัยและเลิกขุดคุ้ยข้อผิดพลาดของกันและกัน ให้อดีตเป็นเพียงสิ่งที่ผ่านไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ปัจจุบันมากกว่า

4.เลิกนิสัยขี้อิจฉาของเรา เราพนันได้เลยว่า ทุกคนมีความรู้สึกไม่ปลอดภัย และระแวงในช่วงต้นของความสัมพันธ์ แต่อย่าเปลี่ยนความรู้สึกไม่ปลอดภัยและระแวงมาเป็นความอิจฉา วิธีทดสอบว่าเราเริ่มอิจฉาก็คือ เราเริ่มที่จะตรวจสอบโทรศัพท์ ไลน์ ไวเบอร์ เฟสบลุ๊คหรือของส่วนตัวของเขา นั่นแหละ ใช่เลย เรากำลังระแวงเขาอยู่ ความอิจฉา หรือความขี้หึงก็เหมือนกับยาพิษที่ค่อยๆ ทำลายความรักและความสัมพันธ์ของเรา ไปทีละเล็กทีละน้อยโดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นจงเชื่อมั่นในตัวคนรักของเรา ความรักจะต้องมีความมั่นใจเป็นพื้นฐาน

5.จงซื่อสัตย์ต่อตนเองและคนรักของเรา ความซื่อสัตย์ที่เราหมายถึงคือ การอธิบายความรู้สึกของเราอย่างตรงไปตรงมาแก่คนรัก อย่าปิดบังความรู้สึก ถ้าเรารู้สึกว่าเขาทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวด หรือโกรธเคือง จงบอกเขา แต่ต้องเลือกเวลาที่เหมาะสมไม่นั้นอาจพังทลายเช่นความรักของฉันที่ผ่านมา  ทำอย่างไม่ต้องอาย ถ้าหากเราไม่สามารถที่จะรักษาความซื่อสัตย์ต่อคนที่เรารักได้แล้ว ใครล่ะ ที่เราจะรักษาความซื่อสัตย์ด้วยได้ อย่าแคร์คนที่อยู่ไกลแต่ต้องห่วงใยคนใกล้ตัว ความรักคือการให้ความซื่อสัตย์ซึ่งกันและกัน ในทางตรงกันข้ามความสัมพันธ์ที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ ก็อาจจะไม่ควรค่ากับความสัมพันธ์ที่เราได้ทุ่มเทไป เขาอาจจะว่าเราไม่มีความซื่อสัตย์ต่อเขาเพราะเขาหวาดระแวงเราทำเหมือนเขา แต่ต้องมีสักวันที่เขารู้ว่าเราซื่อสัตย์กับเขามากเพียงไร
 
 6.อย่าเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง พูดคุยด้วยเหตุผลเมื่อต่างฝ่ายต่างอารมณ์ดีแล้ว



ความซื่อสัตย์มันมีทุกคน เพียงแต่อีกคนจะเปิดใจรับมัน
หรือปิดกั้นมันเอาไว้

     ครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ดี หากความเชื่อใจและไว้ใจกันและกันหมดลงเมื่อใดเส้นสายใยหัวใจบางๆก็ขาดลงไม่มีวันสร้างใหม่ได้ ความรักความสุขและความทุกข์ไม่ได้อยู่กับตลอดไปและตลอดเวลา

ขอบคุณที่สอนทั้งสิ่งดีและไม่ดีให้กับชีวิตของผู้หญิงคนนี้ 





 




 
 

 
 
 
แหล่งที่มา:My feeling

 





 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น